สำหรับใครที่เคยใช้บริการ Grab ส่งของ อาจคุ้นเคยกับการเรียกรถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ส่งของผ่านทางแอปพลิเคชันเป็นอย่างดี เราจึงอยากขอแนะนำบริการรถยนต์ส่งของผ่านแอปส่งของ Deliveree ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจ SMEs บริษัทห้างร้านต่างๆ จนถึงผู้ใช้งานทั่วไป เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้บริการรถเก๋งส่งของที่สะดวก รวดเร็ว และราคาประหยัด
การใช้รถยนต์ส่งของเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจต่างๆ Deliveree จะขอแนะนำการใช้งานรถเก๋งส่งของและตรวจสอบอัตราค่าส่งผ่านแอป Deliveree เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้บริการรถส่งของของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน
รถเก๋งส่งของดีอย่างไร
รถอีโคคาร์หรือรถเก๋งส่งของ ใช้สำหรับขนของหรือส่งสินค้าได้ง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับส่งสินค้าทั่วไปที่น้ำหนักไม่เกิน 100-150 กิโลกรัม และต้องระวังในการขนส่งเป็นพิเศษ โดยคนนิยมใช้เป็นรถส่งอาหาร เค้ก เบเกอรี่ อาหารกล่อง ดอกไม้ ลูกโป่ง สินค้าที่แตกหักง่าย และสินค้าอื่นๆ ที่ต้องหลีกเลี่ยงการโดนแดด ลม หรือฝน เป็นต้น
ประหยัดกว่า ด้วยราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่ารถกระบะรับจ้างขนของทั่วไป แต่สามารถขนสินค้าได้มากถึง 1.3 ลูกบาศก์เมตร ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่หรือจำนวนมากได้ในราคาย่อมเยา
ประเภทรถเก๋งที่ให้บริการมีอะไรบ้าง
การให้บริการรถยนต์ส่งของผ่านแอป Deliveree จะแตกต่างจากแอป Grab ส่งของเล็กน้อย โดยแอป Deliveree มีรถเก๋งให้เลือก 2 ขนาด คือ รถอีโคคาร์มาตรฐาน (รถซีดาน 4 ประตู) และรถอีโคคาร์ขนาดใหญ่ (รถ 5 ประตู) ให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ตามปริมาณของที่ต้องการขนส่ง
ตัวอย่างรุ่นรถอีโคคาร์ขนาดใหญ่ ได้แก่ โตโยต้ายาริส (Toyota Yaris) ฮอนด้าแจ๊ส (Honda Jazz) และโตโยต้าอแวนซ่า (Toyota Avanza) ซึ่งให้ความจุที่มากขึ้น ลูกค้าสามารถเลือกใช้รถอีโคคาร์ขนาดใหญ่ได้โดยการเลือกบริการเสริม “รถขนาดใหญ่ (Extra Space)” จ่ายเพิ่มเพียง 40 บาท แต่ได้พื้นที่และความจุภายในเพิ่มขึ้น เพิ่มความคุ้มค่าสำหรับการขนส่งได้มากกว่าเดิม
ตัวอย่างเปรียบเทียบความจุรถอีโคคาร์มาตรฐานและรถอีโคคาร์ขนาดใหญ่
เช็คและเปรียบเทียบค่าส่งได้ทันที
Deliveree มีโครงสร้างราคาค่าส่งที่โปร่งใส เป็นมาตรฐาน และตรวจสอบได้ทันทีผ่านแอปตลอด 24 ชม. โดยค่าส่งสำหรับรถยนต์ส่งของมี 2 รูปแบบหลักคือ
1. ค่าส่งตามระยะทาง
คำนวณตามระยะทางการใช้งานจริง นับจากจุดรับสินค้าไปยังจุดส่งสินค้า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 110 บาท หลังจากนั้นมีค่าบริการเพิ่มเฉลี่ย 8 บาทต่อกิโลเมตร โดยค่าส่งนี้ได้รวมบริการช่วยยกสินค้าขึ้น-ลงจากรถไว้แล้ว ใช้บริการได้สำหรับทั้งการส่งภายในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจากกรุงเทพฯ ปริมณฑล ไปต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย คุณสามารถตรวจสอบค่าส่งด้วยตนเองได้อย่างรวดเร็วเพียงระบุจุดรับ-ส่งของที่ต้องการใช้งานผ่านหน้าเช็คค่าขนส่งในเว็บไซต์หรือผ่านแอป Deliveree
2. ค่าบริการแบบเหมารายวัน
เป็นบริการเหมารถยนต์สำหรับการส่งของแบบเต็มวัน 9 ชั่วโมงโดยไม่จำกัดปริมาณจุดส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล (สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรสาคร) ในราคาเพียง 1,350 บาท
เมื่อใช้งานการขนส่งผ่านแอปโลจิสติกส์ Deliveree คุณจะได้รับประสบการณ์การขนส่งที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและฟีเจอร์มากมายที่จะทำให้ทุกการขนส่งเป็นเรื่องง่ายและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้คุณในทุกวัน เช่น
- เรียกรถส่งของทุกประเภทได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.
- ส่งของจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปได้ทุกจังหวัดทั่วไทย
- เรียกรถพร้อมกันได้ไม่จำกัดจำนวน เหมาะกับผู้ใช้งานที่ปริมาณการส่งมาก
- ไม่มีการเก็บค่ารอหากผู้ขับรอรับหรือส่งของไม่เกิน 1 ชม. ตอบโจทย์การใช้งานในเชิงธุรกิจและการค้า
- ระบบติดตามผู้ขับแบบเรียลไทม์ ลายเซ็นดิจิตอล และรูปภาพหลักฐานการส่งสินค้า เพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัย
- วงเงินประกันสินค้าสูงสุด 750,000 บาท
- ระบบวางบิล พร้อมเครดิตเทอม สำหรับลูกค้าโปรแกรมธุรกิจ
- ศูนย์บริการลูกค้า พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกวัน ไม่มีวันหยุด
Deliveree เป็นแอปทางเลือกสำหรับการส่งของด้วยรถยนต์นอกเหนือจากแอป Grab ส่งของ และแอปส่งของอื่นๆ นอกจากนี้ Deliveree ยังมีรถขนส่งประเภทอื่นๆ ให้บริการอย่างครบถ้วน ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ ปิคอัพ กระบะตู้ทึบ รถห้องเย็น และรถ 6 ล้อ แอปเดียวจบ ครบทุกเรื่องการขนส่ง
ทดลองใช้ Deliveree ได้ผ่านแอปมืถือในระบบ iOS และ Android หรือผ่านทางเว็บไซต์ สอบถามข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ผ่านเบอร์ 02-105-4400 ผ่าน Live Chat ในแอป หรืออีเมล support.th@deliveree.com ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:00 น. ถึง 22:00 น.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ผู้ให้บริการเจ้าใดให้บริการรถยนต์ส่งของบ้าง
ปัจจุบัน การใช้รถยนต์ส่งของได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะราคาประหยัด ใช้งานได้สะดวก และเหมาะกับการขนส่งสินค้าหลากหลายประเภท ผู้ให้บริการที่ให้บริการส่งของโดยรถยนต์หรือรถเก๋งโดยมากแล้วจะเป็นบริษัทแอปพลิเคชัน บางแอปพลิเคชันอาจมีให้บริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการส่งของด้วย เช่น แอป Grab ส่งของ ขณะที่บางแอป เป็นแอปที่เน้นการให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งแบบเฉพาะทาง เช่น แอป Deliveree ผู้ใช้ควรเลือกใช้งานโดยคำนึงเรื่องราคา คุณภาพการให้บริการ พื้นที่ให้บริการ ตลอดจนฟีเจอร์หรือบริการเสริมอื่นๆ ที่แต่ละผู้ให้บริการมีให้ เช่น ประกันสินค้า เพื่อให้ตรงตามรูปแบบการขนส่งของตนเองมากที่สุด
รถเก๋งส่งของคิดค่าส่งอย่างไร
ผู้ให้บริการส่งของด้วยรถเก๋งมักคิดราคาค่าส่งตามระยะทาง โดยวัดจากระยะทางจากจุดรับสินค้าไปยังจุดส่งสินค้า ถ้าส่งสินค้าในระยะทางที่ไกล ค่าส่งก็จะแพงขึ้นในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ผู้ให้บริการบางรายอาจมีบริการเสริมให้ผู้ใช้เลือกใช้ได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขนส่งมากขึ้น โดยจ่ายค่าบริการสำหรับบริการเสริมนั้นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ผู้ใช้ควรตรวจสอบด้วยว่าค่าบริการส่วนเพิ่มอื่นๆ เช่น ค่ารอ กรณีที่คนขับต้องรอรับสินค้า และค่าที่จอดรถ เป็นอย่างไร หรือถูกรวมในค่าส่งแล้วหรือไม่ เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรวมในการส่งได้อย่างแม่นยำที่สุด